วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ประวัติฉาวโฉ่ลือเลื่องของ"พุทธอิสระ"!!!??

ความกล้าและบ้าบิ่นเอาจริงอย่างท่านอิสระช่างหาได้ยาก
ความปรามาศต่อพระเถระ พระผู้มีพรรษา...
กล้าฉะ!! โดยไม่เกรงกลัว หาผู้ใดเปรียบ
ความสบถในวาจาอันท้าทาย..
ถ้าไม่ได้อย่างนั้นอย่างนี้ท่านจะลาสิกขา...
ฟังมาครั้งที่ 100 แล้ว
แต่ท่านก็ยังห่มผ้าเหลือง...ท่านช่างไม่ธรรมดา!!!
(ท่านเป็นนักฟ้องระดับชาติเชียว อู้หูวว์!!เท่ห์อ่ะ)


หากอยากรู้จักท่านพุทธอิสระ
เลยหามาอ่านเพื่อจะได้เข้าใจในสิ่งที่ท่านกระทำ

สรุปประวัติคร่าวๆของพุทธอิสระ ชื่องามนามเพราะ!!
  • เป็นชาวนครปฐม เรียนไม่จบ ป.4 นักธรรมเอก
  • บวชอายุ 20 ปี
  • แต่ลาสิกขาไปเป็นทหาร
ช่วงที่พุทธอิสระเป็นทหาร...ท่านก็สร้างวีรกรรมเอาไว้ไม่ธรรมดา
อ่า.....สุดยอด!!!

ที่แท้ท่านเองเคยลองไปใช้ชีวิตอันหฤโหด
ฝึกอย่างหนัก
สั่งซ้ายขวาก็ต้องทำ...เข้าใจเลยว่าต่อมา ทำไมท่านชอบคบกับทหารและชอบสั่ง ชี้นิ้วๆๆๆ
โอ้.....ท่านยังมีศรัทธามาบวชแน่ะ
กลับมาบวชอีกทีนี้ !!!

ก็กลับมาบวชใหม่ที่วัดเดิม ได้รับฉายาว่า “ธมฺมธีโร”
แต่หลังจากนั้นไม่นานนัก “พุทธะอิสระ” ก็ต้อง “สึก” และ “บวช” ใหม่อีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2544 ซึ่งว่ากันว่า 
เป็นเพราะกรณีครหา “โกงอายุพรรษา” !!! 

“ทีมงานพระนครฯ” ได้ทำการสืบเสาะแสวงหาข้อมูลหลักฐานทุกอย่างโดยละเอียดและพบว่า กรณีการ “สึก” ของ “พุทธะอิสระ” หรือขณะนั้นคือ “พระอธิการสุวิทย์ ธีมมฺโม” นั้นเป็นข่าวใหญ่คึกโครมในปี 2544 โดยมีสาเหตุใหญ่มาจากการพบหลักฐาน กรณี “ตำแหน่งเจ้าอาวาส” กับ “ตำแหน่งเจ้าคณะตำบลห้วยขวาง (วัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม)” ที่พระสุวิทย์ดำรงอยู่นั้นระบุ “อายุพรรษา” แตกต่างกัน โดย “ใบตราตั้งเจ้าอาวาส” ระบุว่า ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสเมื่อปี 2538 ขณะมีอายุ 35 ปี 11 พรรษา แต่ในปี 2542 ได้รับการแต่งตั้งเป็น “เจ้าคณะตำบล” กลับมีอายุ 44 ปี 21 พรรษา 
ซึ่งระยะเวลาห่างกัน 4 ปี คือ พ.ศ.2538 ถึง พ.ศ.2542 แต่กลับมีการระบุ “อายุ” คลาดเคลื่อนกันไปถึง 5 ปี และ “พรรษา” ต่างกัน 6 พรรษา

จากนั้นคนไทยทั้งประเทศได้รู้จักท่านพุทธอิสระในฐานะ
“แกนนำม็อบกบฏ กปปส.”
ป้าด...มาดให้ (อย่างกะเจ้าพ่อมาเฟีย)

 เมื่อ “พุทธะอิสระ” หรือ “พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม” หรือ “นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ” เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม 
ได้รับการยืนยันจาก “นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์” 
ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่า 
“ทำผิดพระธรรมวินัย” ของสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) ในการชักชวนประชาชนให้ทำผิดกฎหมาย..
ย้ำกันให้ชัดเจนว่า “ถูกจับ” เมื่อไร … “สึก” ได้ทันที !!!
และล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้ศาลออก “หมายจับ” 
ในข้อหาขัดขวางการเลือกตั้ง ภายหลังนำพาสาวกบุกปิดล้อมสำนักงานเขตหลักสี่ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 
จนเป็นเหตุให้เกิดการปะทะกันด้วยอาวุธสงครามอย่างรุนแรง !!

ต่อมา...พุทธอิสระ ท่านโด่งดังไปทั่วภพสาม 
เมื่อออกมายืนยัน..ยืนกราน ที่จะสึกพระเถระหลายรูป
อาทิ พระเทพญาณมหามุนี หรือหลวงพ่อธัมมชโยวัดพระธรรมกาย


ท่านได้รับความเคารพยำเกรง...อย่างน่าสงสัย 
ไม่มีข้าราชตำรวจ ทหารกล้าจับท่านเลยแม้แต่คนเดียว
พบเห็นท่าน ก็นอบน้อมเสมอ..โอ้ววว์ สุดยอด!!
ต่อมา...
เมื่อทำอย่างไร...ก็ไม่สามารถทำอะไรวัดพระธรรมกายได้
ท่านจึงซุ่มเงียบ...หาจังหวะและโอกาส (อย่าลืมว่าท่านฝึกมาดี)

พอเห็นข่าวหลวงพ่อธัมมชโยปุ๊บ!! ท่านก็ออกมาชี้แนะปั๊บเลย!!
เช่น ทำไมไม่อายัด ยึดวัดพระธรรมกายเลยล่ะ!!! โอ้วววว

สิ่งที่ทำร้ายหัวใจท่านพุทธอิสระ...คือใครๆ ก็ไม่อยากใกล้ท่านทั้งผิวพรรณ วรรณะ...อาภรณ์ ของท่านพุทธอิสระก็เริ่มเศร้าหมอง

แม้ท่านจะตรอมใจเท่าใด...แต่เมื่อออกข่าว ออก TV
ท่านจำใจต้องกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดุเด็ดเผ็ดมันส์
(ไม่ได้หรอก เดี๋ยวกองเชียร์ที่เหลือน้อยของท่านจะไม่สนุกน่ะ)

ท้ายนี้...ขอทิ้งท้ายด้วยคำกลอนเพราะๆ
แด่...พุทธอิสระ พระที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร
ใจเย็นนะท่าน

ยิ้มไว้...ๆ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น